ดอกกุหลาบ
ชื่อวิทยาศาสตร์: Rosa spp.
ชื่อวงศ์: Rosaceae
ชื่อสามัญ: Rose
ลักษณะทั่วไป:
ต้น ไม้พุ่มขนาดเล็ก แต่บางชนิดมีขนาดใหญ่หรือเป็นไม้เลื้อย เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นและกิ่งมีหนาม เปลือกสีเขียว
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 5-9 ใบ ออกลับกัน ใบรูปไข่ กว้าง 1.5-3 ซม. ยาว 5-10 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบจักฟันเลื่อย แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมันและมีรอยย่นเล็กน้อย
ดอก เป็นดอกเดี่ยว หรือดอกช่อ กลีบดอกแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ กลีบดอกชั้นเดียว จะมี 5 กลีบ ยกเว้นบางชนิดที่มีเพียง 4 กลีบ คือ Rosa sericea และ Rosa omeiensis ส่วนกลีบดอกกึ่งซ้อนมี 6-20 กลีบ กลีบดอกซ้อนมีตั้งแต่ 20 กลีบไปจนถึง 50-60 กลีบ กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ สีเขียวหรือสีเขียวอมแดงเรื่อ เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก อับเรณูสีเหลืองล้อมรอบเกสรเพศเมียซึ่งรวมเป็นกระจุกอยู่กลางดอก และจะอยู่ในระดับต่ำกว่าเกสรเพศผู้
ฝัก/ผล เป็นผลกลุ่ม ผลแก่แห้ง เมื่อเริ่มติดผลส่วนที่เป็นรังไข่จะขยายพองโตขึ้นโดยมีฐานรองดอกหุ้มไว้ ภายในประกอบด้วยผลย่อยจำนวนสองถึงหลายสิบผล ผลมีรูปร่างต่างๆ กัน ตามชนิด เช่น กลม กลมแป้น ยาวรี มีเนื้อนุ่ม และมีหลายสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง หรือสีน้ำตาล
เมล็ด เมล็ดล่อน (achene) ค่อนข้างกลม รูปไข่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-4 มม. เมล็ดอ่อนสีขาวอมเขียว ที่ปลายมีสีแดง เมล็ดแก่สีน้ำตาล จำนวน 2-18 เมล็ด
ฤดูกาลออกดอก: ตลอดปี โดยเฉพาะ ธ.ค.-มี.ค.
การปลูก: ปลูงลงกระถางหรือลงแปลงประดับสวน
การดูแลรักษา: ชอบดินที่เป็นกรดเล็กน้อย อากาศเย็น
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง ติดกิ่ง ติดตา หน่อ
ส่วนที่มีกลิ่นหอม: ดอก
การใช้ประโยชน์:
- ตัดดอกประดับแจกัน
- กลีบดอกแรกแย้มสกัดได้น้ำมันหอมระเหยใช้แต่งกลิ่น โดยเฉพาะ เครื่องสำอาง
- ร้อยมาลัย และบุหงา
ถิ่นกำเนิด: กุหลาบอยู่ในสกุล Rosa มีอยู่ประมาณ 125 ชนิด มีถิ่นกำเนิดในเอเซียประมาณ 95 ชนิด ในอเมริกา 18 ชนิด ส่วนที่เหลือมีถิ่นกำเนิดในยุโรปหรือตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา
สรรพคุณทางยา:
- ดอก มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ ขับน้ำดี
- ผล มีวิตามินซีมาก
แหล่งที่มา:http://www.nanagarden.com/ลักษณะพฤกษศาสตร์ของกุหลาบ-10096-13.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น